닫기
  • 닉네임 :
  • 닫기
  • 닉네임
  • 가입
  • 점수
  • 자기소개
닫기
아래의 신고 이유를 선택하고 신고 버튼을 클릭 해 주세요.

ตั้งกระทู้

#ท่องเที่ยว

#ทำอาหาร

#ร้านอร่อย

#เคล็ดลับ

#แชร์ประสบการณ์

#ความรัก

#ความงาม

#เรื่องที่บอกใครไม่ได้

#เรื่องเรียน

ทางออกผู้ติดคุกเงินกู้ซื้อบ้าน (Mortgage Prison)

01 Aug 2023
ครัวเรือนมากมายต้องติดอยู่ในคุกเงินกู้ซื้อบ้านหรือ Mortgage Prison จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่พุ่งกระฉูด ประกอบกับราคาอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลียที่ตกต่ำลง Mortgage Prison คืออะไร มีทางออกไหม ถ้ามีปัญหาชำระเงินกู้ซื้อบ้าน ควรทำอย่างไร คุณศศพินทุ์ เปรมสาย (ซาซ่า) ที่ปรึกษาด้านสินเชื่อซื้อบ้าน ในเมลเบิร์น อธิบาย ประเด็นสำคัญในพอดคาสต์ Mortgage Prison หรือติดอยู่ในคุกเงินกู้ซื้อบ้าน คืออะไร ปัจจัยที่ทำให้ผู้คนติดคุกเงินกู้ซื้อบ้าน คนกลุ่มไหนที่มีความเสี่ยงประสบปัญหา mortgage prison มีทางออกหรือไม่สำหรับคนที่ติดคุกเงินกู้ซื้อบ้าน คนที่จะกู้เงินซื้อบ้านในอนาคต จะหลีกเลี่ยง mortgage prison ได้อย่างไร ถ้าประสบปัญหาผ่อนชำระเงินกู้ซื้อบ้าน ควรทำอย่างไร กด ▶ ด้านบนเพื่อฟังสัมภาษณ์ https://www.sbs.com.au/language/thai/th/podcast-episode/how-to-get-out-of-mortgage-prison/dms41sijf?fbclid=IwAR00ipY217xuT-Ckv4awKpylHejgoqpAyiTKWIcFFQkTAvSdwbLc7o71mok คุณ ศศพินทุ์ เปรมสาย (ซาซ่า) ที่ปรึกษาด้านสินเชื่อซื้อบ้าน (Mortgage Broker) ในเมลเบิร์น อธิบายสถานการณ์ Mortgage Prison หรือติดอยู่ในคุกเงินกู้ซื้อบ้าน ที่กำลังพบได้บ่อยขึ้นในออสเตรเลียทุกวันนี้ “Mortgage Prison หรือติดอยู่ในคุกเงินกู้ซื้อบ้าน คือการที่ท่านมีสินเชื่อบ้านหรือมี home loan อยู่กับธนาคารปัจจุบัน แล้วท่านพยายามรีไฟแนนซ์ไปองค์กรการเงินอื่น หรือธนาคารอื่น แต่ท่านไม่สามารถทำได้ แล้วท่านติดอยู่กับธนาคารปัจจุบัน” คุณซาซ่า กล่าว Advertisement Mortgage Prison คือการที่ท่านมี home loan อยู่กับธนาคาร แล้วท่านพยายามรีไฟแนนซ์ไปหาดอกเบี้ยที่ถูกกว่า แต่ไม่สามารถทำได้ ต้องติดอยู่กับธนาคารปัจจุบัน ศศพินทุ์ เปรมสาย (ซาซ่า) กล่าว Mortgage Prison คือการที่ท่านมี home loan อยู่กับธนาคาร แล้วท่านพยายามรีไฟแนนซ์ไปหาดอกเบี้ยที่ถูกกว่า แต่ไม่สามารถทำได้ ต้องติดอยู่กับธนาคารปัจจุบัน เธอบอกว่า สถานการณ์ด้านดอกเบี้ยในออสเตรเลียได้นำไปสู่สถานการณ์ที่ทำให้ผู้คนติดอยู่ในคุกสินเชื่อซื้อบ้าน “การติดคุกเงินกู้ซื้อบ้านมาจากปัจจัยหลัก 2 อย่าง ปัจจัยที่หนึ่งคือความสามารถในการกู้ยืมของท่านไม่เพียงพอ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 12 ครั้งในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา แต่รายได้ของท่านไม่เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนไปพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถในการกู้ยืมของท่านไม่เพียงพอ ถ้าเปรียบเทียบกับตอนที่ท่านกู้เงินซื้อบ้านในครั้งแรก” “ ปัจจัยที่สองคือ มูลค่าบ้านลดลง คือบ้านที่ท่านซื้อเมื่อปีหรือสองปีที่แล้วมีมูลค่าลดลง จึงทำให้ท่านไม่สามารถรีไฟแนนซ์ไ ด้ เช่น ในซิดนีย์บ้านมูลค่าลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ (โดยภาพรวม) ในเมลเบิร์น บ้านมูลค่าตกราว 14 เปอร์เซ็นต์ (โดยภาพรวม) ในการที่มูลค่าบ้านลดลงส่งผลกระทบต่อ LVR (LVR คือ สัดส่วนยอดหนี้สินชื้อบ้านต่อมูลค่าบ้าน) ถ้า LVR มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ท่านจะต้องเสีย loan mortgage insurance ส่งผลให้ไม่คุ้มค่าที่ท่านจะรีไฟแนนซ์ไปองค์กรทางการเงินอื่น” คุณซาซ่า ระบุ การติดคุกเงินกู้ซื้อบ้านมาจาก ปัจจัยที่หนึ่งคือดอกเบี้ยเพิ่ม แต่รายได้ของท่านไม่เพิ่ม ปัจจัยที่สองคือมูลค่าบ้านของท่านลดลง ศศพินทุ์ เปรมสาย (ซาซ่า) เธอกล่าวต่อไปว่า มีผู้กู้ยืมบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษที่จะติดอยู่ในคุกสินเชื่อซื้อบ้าน “มีอยู่ 3 กลุ่มค่ะ กลุ่มที่หนึ่งคือ ท่านที่ซื้อบ้านในช่วงที่ราคาบ้านพุ่งสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา (peak cycle of property market) แต่หลังจากนั้นมูลค่าบ้านตก ทำให้ LVR ของท่านมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่สามารถรีไฟแนนซ์เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยได้” “ กลุ่มที่สองคือ เมื่อตอนที่ท่านซื้อบ้านหรือประกวดราคา ณ ตอนที่ซื้อนั้นท่านเสนอราคาแพงเกินไป จึงทำให้สัดส่วนการกู้ยืมกับมูลค่าบ้านไม่สมดุล LVR มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะท่านที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ส่วนมากจะเสนอราคาซื้อสูงกว่าที่ควรจะเป็น” “ กลุ่มที่สามคือ ผู้ที่ซื้อบ้านและวางเงินมัดจำน้อย โดยมากมักเป็นคนอายุน้อย หรือคนที่เพิ่งจบการศึกษาใหม่ ๆ อายุน้อย ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นครอบครัว จึงมีเงินเก็บน้อย เก็บยาก เพราะท่านเพิ่งเริ่มก้าวเข้าไปในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เงินวางมัดจำน้อย แต่ยอดกู้ยืมเยอะ การผ่อนจ่ายสูง ถ้าท่านกู้ที่มากกว่า 90-95 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าบ้าน ท่านต้องถือครองบ้านไว้ 3-4 ปี กว่าที่ท่านจะสามารถรีไฟแนนซ์แล้วไม่ต้องเสีย loan mortgage insurance อีกครั้ง คือมูลค่าบ้านสูงขึ้นเพียงพอที่จะทำให้สัดส่วนของ LVR ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์” กลุ่มเสี่ยงคือ ผู้ที่เพิ่งซื้อบ้านในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่ซื้อบ้านมาในราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น ผู้ที่วางเงินมัดจำน้อย ศศพินทุ์ เปรมสาย (ซาซ่า) อย่างไรก็ตาม ยังคงมีทางออกสำหรับผู้ติดคุกเงินกู้ซื้อบ้าน ซึ่งคุณซาซ่าได้แนะนำไว้ในบทสัมภาษณ์ รวมทั้งฝากคำแนะนำที่สำคัญถึงผู้คนที่มีปัญหาชำระเงินกู้ซื้อบ้าน “ การนิ่งเฉยไม่ติดต่อธนาคาร หรืออยู่ดี ๆ ก็หยุดผ่อนไป เพราะนั่นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อท่าน อย่างแรกคือ ประวัติทางการเงินของท่าน หรือ credit check, credit report ซึ่งธนาคารมีสิทธิ์ mark ในนั้นว่า late repayment, not repayment หรือ default ใน credit report, credit score ของท่านผู้กู้ยืม ส่งผลให้ท่านจะกู้ยืมเงินไม่ผ่านในอนาคต หรือต้องกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่แพง จึงจะส่งผลกระทบต่อท่านเป็นระยะเวลานาน” การนิ่งเฉยไม่ติดต่อธนาคาร หรือหยุดผ่อนไป จะส่งผลกระทบต่อประวัติทางการเงินของท่านเป็นระยะเวลานาน ศศพินทุ์ เปรมสาย (ซาซ่า) “กรณีที่แย่ที่สุดคือ หากท่านหยุดผ่อนจ่าย และไม่บอกธนาคาร แต่เงียบหายไป ธนาคารจะยึดบ้านของท่าน เรียกว่า repossession แล้วธนาคารจะเอาบ้านของท่านไปขายทอดตลาด ถ้าธนาคารขายบ้านให้ท่าน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดธนาคารจะนำมาหักค่าใช้จ่าย ท่านจะได้กำไรน้อยลง” คุณซาซ่ายังได้ฝากข้อคิดถึงผู้มีเงินกู้ซื้อบ้านทุกคนในช่วงนี้ว่า “ขอให้บริหารการเงินอย่างใกล้ชิดในช่วงที่สถานการณ์อัตราดอกเบี้ยยังไม่นิ่ง พร้อมทั้งให้สื่อสารพูดคุย เก็บข้อมูล กับธนาคาร โปรเกอร์อย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็ต้องประหยัด หารายได้เสริม และอย่าก่อหนี้สินเพิ่มเติม” ติดตามฟังคุณซาซ่า ศศิพินทุ์ เปรมสาย ได้อย่างละเอียด ในสัมภาษณ์ฉบับเต็มด้านล่าง https://www.sbs.com.au/language/thai/th/podcast-episode/how-to-get-out-of-mortgage-prison/dms41sijf?fbclid=IwAR00ipY217xuT-Ckv4awKpylHejgoqpAyiTKWIcFFQkTAvSdwbLc7o71mok คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  sbs.com.au/thai บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่  facebook.com/sbsthai  

SBS Thai

18

0

ร้านขนมไทยอยู่แถว China Town

30 Jul 2023
วันนี้เข้าเมือง แล้วบังเอิญเจอร้านขนมไทยอยู่แถว China Town เลยอยากแนะนำทุกคน ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองไปชิม มันดีมากกกก ขอรีวิวขนมที่วันนี้ได้ทานมานะคะ ขนมเบื้อง (มีแต่ไส้หวาน) ไส้หอมมากกกกกก แป้งครีม เริ่ด ไอติม เครื่องแน่นมาก ทีเด็ดคือไอติม นำเข้าจากประเทศไทยค่ะ โห รสชาติไม่ต้องพูดถึง มี mango sauce ให้ด้วย รสชาติเปรี้ยวๆ กล้วยทอด แป้งกรอบซะใจมาก ทับทิมกรอบ ทีเด็ดเลย บอกแม่ค้าว่า กินเลย เขาเสริฟพร้อมน้ำแข็งใส ฟินมากกกก พอกินเสร็จ ต้องเดินกลับไปขอเขาถ่ายรูปและเอามาบอกต่อเพื่อนๆในซิดนีย์เลยทีเดียว https://www.facebook.com/groups/1748946898502676/permalink/6924231604307487/ https://www.facebook.com/groups/1748946898502676/permalink/6924231604307487/

Bay of Fire, Tasmania, Australia __

29 Jul 2023
_______ แทสมาเนีย ทัก ครัช ใครที่อยู่ออสเตรเลียแล้ว ยังไม่เคยไปแทสมาเนีย ไปเถอะค่ะ ใครที่กำลังจะมาเที่ยวออสเตรเลีย นอกจากซิดนีย์กับเมลเบิร์นแล้ว เวลาเหลือ ลองดูแทสมาเนียนะคะ แนะนำเลย บินไปได้จากทั้งสองเมือง หรือนั้่งเรือข้ามไปจากเมลเบิร์นก็ได้ เราสองคนกำลังจะกลับไปเที่ยวแทสมาเนียรอบที่สาม ตอนนี้เลยอยากจะเอารูปจากทริปเก่า ๆ มาทยอยให้ดู รูป collection นี้เป็นทริปแรกของเราเมื่อ Jan 2019 ตอนนั้นเรายังถ่ายรูปไม่เป็น ถ่ายด้วยกล้องไอโฟนธรรมดา ความรู้เรื่องแทสมาเนียคือน้อยมาก เราเช่ารถบ้านขับขึ้นไปจาก Hobart, อากาศตลอดทริปของเรา เป็นอย่างที่เห็น ฟ้าไม่ได้ใสอะไรมากมาย ออกแนวอึมครึมด้วยซ้ำ แต่ความมหัศจรรย์ของ Bay of Fire มันร้อนแรงจริง ๆ The Bay of Fires เป็นอ่าวบนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐแทสเมเนียในออสเตรเลีย ทอดตัวจากอ่าว Binalong ไปจนถึง Eddystone Point อ่าวแห่งนี้ได้รับการตั้งชื่อในปี 1773 ในการผจญภัย ของ Captain Tobias Furneaux ผู้ซึ่งเห็นการจุดไฟของชาวอะบอริจินบนชายหาด Bay of Fires เป็นพื้นที่ที่มีชายหาดสีขาว น้ำทะเลสีฟ้า และหินแกรนิตสีส้ม (สีที่เกิดจากสีของไลเคน) ใครไปแทสมาเนียครั้งแรก และมีโอกาสเที่ยวแบบ road trip, ลองใส่ Bay of Fire ไว้ใน list เลยค่ะ ส่วนใครที่ไปมาแล้ว แปะรูปไว้ให้เพื่อน ๆ ดูหน่อยคะ ว่า Bay of Fire ของคุณ เป็นยังไง แอดแม่ผู้เฝ้ารอการกลับไปเยือนแทสมาเนียอีกรอบ https://www.facebook.com/groups/1748946898502676/user/100078974687976/

GO GALA แคมป์ปิ้งออสเตรเลีย

12

0

Hobart, Tasmania

29 Jul 2023
_________ เกาะที่อยู่ใต้สุดของประเทศออสเตรเลีย อากาศหนาวตลอดทั้งปี เมืองที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือนและใช้ชีวิต นี่เป็นทริปที่เราไปแทสมาเนียครั้งที่ 2 เมื่อ Sep 2022 ปีที่แล้ว เป็นฤดู Spring ของออสเตรเลีย คือใบไม้ผลิ อากาศเย็น หนาวสำหรับบางคน แต่มานนนนดียยยยยย มากกกกก ทุ้กกกโค้นนน เราสองคน ต้น กะ จิ๊บ นัดเจอกับเพื่อนอีกสองคน บิ กับ นิ่ม และเที่ยวแทสมาเนียทริปนี้ด้วยกัน เราเลือกเดินทางไปถึงคืนวันศุกร์ และนอน Air Bnb สำหรับ 4 คน สองห้องนอน นี่เป็น หนึ่งใน Air Bnb ในดวงใจ สวยทุกมุม สวยยันประตูบ้าน ตั้งอยู่ที่ suburb ที่เรียกว่า Battery point ไม่ไกลจาก Hobart CBD ถ้าใครมีแพลนไปนอน ที่ Hobart อยู่แล้ว แอดแม่ของแนะนำนอน air bnb หลังนี้ นี่ไม่ได้ sponsor ใด ๆ นะคะ อยากได้ spon จากบ้านหลังนี้มาก (ทำไงดี) ชอบส่วนตัว ชอบด้วยตัวเอง ชอบมากกกกกก ตื่นมาจิบกาแฟ ในห้องครัว ชมวิว ถ่ายรูปเกร๋ ๆ เดินออกจากบ้าน ถ่ายรูปกับหลังบ้าน ถ่ายรูปกับหน้าบ้าน โอ้ย คุ้มมมมมมมมมมมม เราไปนอน ที่นี่คืนวันศุกร์ เพื่อจะได้ตื่นขึ้นมาหา Breakfast และ coffee และเดินเล่นตลาด Saturday Market ประจำเมือง ตลาด Salamanca Market ที่นี่ดียยยยมากเลยค่ะ ความที่เราเคยมีธุรกิจในตลาดมาก่อน เราได้มาเจอบรรยากาศแบบนี้อีกรอบมันฟินมาก แล้วก็อากาศหนาวมันคือปัจจัยดีที่สุด (perfect condition) ของ outdoor market ใครอยู่ Hobart วันเสาร์ ต้องมาเดินเล่นหาของกินและของฝาก locat ที่นี่เลยค่ะ เริ่ดดดด โพสนี้ไม่น่าจะเรียกว่ารีวิวเมือง Hobart ได้หรอกค่ะ รีวิวบ้าน Air bnb มากกว่า เพราะฉะนั้นของดูรูป Hobart ของทุกคนหน่อย เดี๋ยวสิงหานี้แอดแม่ไปอีกที แนะนำที่เที่ยว ที่กินให้หน่อยค่ะ รอบก่อนแอดแม่ออกจาก Hobart ตรงไป Cradle Mountain เลย แล้วเจอกัน แทสมาเนีย แอดแม่ผู้อยากไปเจอหิมะแล้ว https://www.facebook.com/groups/1748946898502676/user/100078974687976/ https://www.facebook.com/groups/1748946898502676/user/100078974687976/

GO GALA แคมป์ปิ้งออสเตรเลีย

14

0

Port Arthur, Tasmania

29 Jul 2023
__________ ใครชอบเที่ยวโบราณสถานและศึกษาประวัติศาสตร์ต้องที่นี่เลย พูดง่าย ๆ คือที่นี่เป็น "คุกเก่า" มีค่าเข้าชมนะคะ แล้วก็มีให้เลือกทั้ง Day Tour and Ghost Tour ด้วย ใครอยากท้าทายผีฝรั่ง เชิญค่ะ Port Arthur เป็นเมืองและอดีตที่ตั้งถิ่นฐานของนักโทษบนคาบสมุทรแทสมันใน แทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย ห่างจากเมืองหลวงของรัฐ (Hobart) ประมาณ 97 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ ขับรถประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สถานที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Australian Convict Sites ซึ่งเป็นทรัพย์สินมรดกโลกที่ประกอบด้วยสถานที่คุมขังที่เหลืออยู่ 11 แห่ง Port Arthur สร้างขึ้นในจักรวรรดิอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 บนแถบชายฝั่งทะเลอันอุดมสมบูรณ์ของออสเตรเลีย ยูเนสโก กล่าวถึง Port Arthur ไว้ว่า "... ตัวอย่างที่ดีที่สุดที่ยังมีชีวิตรอดของการขนส่งนักโทษขนาดใหญ่และการขยายอาณานิคมของอำนาจในยุโรปผ่านการปรากฏตัวและแรงงานของนักโทษ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 1996 ที่นี่ เคยเป็นสถานที่เกิดเหตุสังหารหมู่ ซึ่งเป็นตัวอย่างการสังหารหมู่ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ออสเตรเลียยุคหลังอาณานิคม และเป็นชิ้นข่าวใหญ่โตไปทั้งโลก ซึ่งเราสามารถเข้าไปเดินเยี่ยมชมสถานที่สังหารหมู่ครั้งนี้ได้ด้วย ใครเคยไป Port Arthur ชอบหรือไม่ชอบ ยังไง ลองเม้นท์บอกหน่อยค่ะ แอดแม่ผู้ไม่อยากโดนกักขัง ปล. ภาพ Monotone โดยแอดพ่อจ้า https://www.facebook.com/groups/1748946898502676/user/100078974687976/ https://www.facebook.com/groups/1748946898502676/user/100078974687976/

GO GALA แคมป์ปิ้งออสเตรเลีย

13

0

เหตุสุนัขดิงโกกัดคนเกิดบ่อยแค่ไหน ควรวิตกไหม

26 Jul 2023
หลายหน่วยงานกำลังจับตาดูพฤติกรรมของสุนัขดิงโก (Dingo) หลังเหตุสุนัขดิงโกรุมกัดผู้หญิงคนหนึ่งบนเกาะการี (K'gari) ในควีนส์แลนด์เมื่อสัปดาห์ก่อน ประเด็นสำคัญ ผู้หญิงคนหนึ่งถูกสุนัขดิงโก (Dingo) อย่างน้อย 3 ตัวกัดและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่าการถูกสุนัขดิงโกรุมกัดเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่เหตุการณ์ครั้งล่าสุดทำให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าชาวอะบอริจินผิดหวังที่นักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัย เหตุการณ์สุนัขดิงโก (Dingo) รุมกัดผู้หญิงคนหนึ่งที่เกาะการี (K'gari หรือเดิมคือเกาะเฟรเซอร์) ทำให้มีการจับตาดูพฤติกรรมของสุนัขพื้นเมืองออสเตรเลียเหล่านี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและองค์กรที่เกี่ยวข้องต่างไม่พอใจที่นักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัย หญิงรายนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมบาดแผลจากการถูกกัดจำนวนมาก หลังถูกสุนัขดิงโกอย่างน้อย 3 ตัวรุมกัด ขณะที่เธอกำลังวิ่งจ็อกกิงบนชายหาดที่เกาะการี (K'gari หรือเดิมคือเกาะเฟรเซอร์) ในรัฐควีนส์แลนด์เมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สุนัขดิงโกเหล่านั้นวิ่งไล่ต้อนเธอลงไปในน้ำ ก่อนที่จะมีชายสองคนขับโฟร์-วีล ไดรฟ์ เข้าไปช่วยเธอไว้ได้ Advertisement การที่สุนัขดิงโกรุมกัดคนเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน? "การรุมทำร้ายมนุษย์ของดิงโกนั้นเกิดขึ้นน้อยมาก และในกรณีส่วนใหญ่เมื่อมนุษย์ถูกรุมกัด จะมาจากการที่สุนัขดิงโกเริ่มคุ้นเคยกับมนุษย์และอาจจะเลิกกลัวมนุษย์ไปแล้วด้วยซ้ำ" คุณ บิล เบทแมน นักนิเวศวิทยาเชิงพฤติกรรมระบุในบทความที่เผยแพร่ทาง เว็บไซต์ The Conversation "นี่เป็นเพราะพวกมันเชื่อมโยงมนุษย์กับอาหาร แม้ว่าจะไม่ได้มองมนุษย์ว่าเป็นอาหารก็ตาม" อย่างไรก็ตาม มีการเผชิญหน้ากันระหว่างมนุษย์และสุนัขดิงโกหลายครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลียประเภทนี้นั้นถูกเรียกว่า วองการี (wongari) โดยชาวบุทชุลลา (Butchulla) ซึ่งเป็นเจ้าของดั้งเดิมของเกาะการี เกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นเกาะทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลกและอยู่ห่างจากบริสเบนไปทางเหนือ 300 กิโลเมตร ได้ถูกเปลี่ยนชื่อ จากชื่อเดิมคือเกาะเฟรเซอร์ ถูกเปลี่ยนกลับไปเป็นชื่อภาษาพื้นเมืองดั้งเดิมคือ การี (K'gari) ซึ่งแปลว่า 'สรวงสวรรค์' คุณจอร์จ ซีย์มอร์ นายกเทศมนตรีสภาเทศบาลพื้นที่ เฟรเซอร์ โคสต์ เชื่อว่า มีเหตุสุนัขดิงโกรุมกัดผู้คนเกิดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ในช่วงสองปีที่ผ่านมามากกว่าในช่วงสิบปีก่อนหน้านี้ “มีบางสิ่งที่แตกต่างออกไปในช่วงสองปีที่ผ่านมา” เขาบอกกับสถานีวิทยุเอบีซี โดยชี้ไปที่ความถี่ของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขดิงโกและพฤติกรรมของดิงโก "นี่เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะมันน่ากลัวอย่างยิ่งที่ถูกสัตว์ป่ารุมทำร้าย" จะทำอย่างไรหากเราเผชิญหน้ากับสุนัขดิงโก เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าชาวอะบอริจินกล่าวว่า พวกเขาผิดหวังที่ผู้คนไม่ได้ฟังคำเตือนด้านความปลอดภัย และพวกเขาขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำเตือนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด คำแนะนำด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับสุนัขดิงโกนั้นรวมถึง การห้ามให้อาหารแก่สุนัขดิงโก เก็บอาหารและเศษอาหารไว้ในภาชนะหรือในพื้นที่ที่สุนัขดิงโกไม่สามารถเข้าถึงได้ การตั้งแคมป์ภายในบริเวณที่มีรั้วกั้น การอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม อย่าให้เด็ก ๆ อยู่ไกลจากระยะที่ผู้ใหญ่จะเข้าไปช่วยเหลือได้ทันที และอย่าวิ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับสุนัขดิงโก คุณเทสซา ไวอา เป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความสัมพันธ์กับชุมชน ของบริษัทบุชชูลา อะบอริจินอล คอร์ปอเรชัน (Butchulla Aboriginal Corporation) หรือ BAC ซึ่งเป็นตัวแทนดูแลผลประโยชน์จากกรรมสิทธิ์ที่ดินพื้นเมืองของชาวบุชชูลา เธอกล่าวว่า "คำเตือนมีอยู่ทุกที่ ก่อนที่คุณจะจองที่พักเพื่อไปที่นั่นด้วยซ้ำ" คุณไวอา บอกกับ เอ็นไอทีวี นิวส์ (NITV News) "คุณมีใบปลิวและแผ่นพับ มีการแจ้งจากพนักงานต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ขับรถทัวร์ เรามีป้ายบอกไว้ทั่วเกาะ เรามีโบรชัวร์ทุกที่ เราก็ยังมีการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของเราทุกคนด้วย" เธอกล่าวต่อไปว่า แต่ผู้คนเพิกเฉยและไม่เอาใจใส่คำแนะนำด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับสุนัขดิงโก “เราบอกว่า คุณไม่สามารถนำอาหารและเครื่องดื่มไปยังแอ่งน้ำ (ซึ่งเป็นบริเวณที่สัตว์ต่าง ๆ มาดื่มกิน water holes) ได้ แต่เราก็ยังคงเห็นผู้คนทำอาหารและย่างบาร์บีคิวที่นั่นอยู่” คุณไวอากล่าว "เราไม่ได้ทำเช่นนี้ เพราะเราต้องการให้พวกเขาหมดสนุก แต่เราต้องการให้พวกเขาได้ไปที่นั่นและเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของเคการี" คุณไวอากล่าวว่าชุมชนอะบอริจินในท้องถิ่นรู้สึกผูกพันกับสุนัขดิงโกหรือที่เรียกกันว่าวองการีในภาษาพื้นเมือง  "การทำการุณยฆาตสุนัขดิงโกเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ฉันจะผลักดันให้มีการปิดบริเวณตั้งแคมป์เสียมากกว่า (ที่จะสังหารสุนัขดิงโก) เพราะผู้คนไม่จำเป็นต้องไปที่นั่น" กลยุทธ์การล่าของสุนัขดิงโก คุณ ลินดา เบห์เรนดอร์ฟ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของบริการด้านอุทยานและสัตว์ป่าของรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า สุนัขดิงโกที่ร่วมก่อเหตุรุมกัดบนเกาะการีครั้งล่าสุดนี้นั้น สวมปลอกคอที่ฝังจีพีเอส (GPS) อยู่ด้วย “มันเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงสูง (ที่จะทำร้ายผู้คน)” คุณเบห์เรนดอร์ฟ กล่าว คุณ ดาร์เรน เบล็ก จากบริษัทบุชชูลา อะบอริจินอล คอร์ปอเรชัน (Butchulla Aboriginal Corporation) บอกกับเอบีซีว่า เขาไม่แปลกใจเลยที่สุนัขดิงโกไล่ต้อนผู้หญิงคนนี้ลงไปในน้ำ และเสริมว่าพวกมันไม่ใช่ "ลูกหมา" ที่เราจะไปเล่นด้วยได้ “นั่นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การล่าของพวกมัน” คุณ เบล็ก อธิบาย "นั่นคือสิ่งที่พวกมันทำกับวอลลาบี … พวกมันไล่ต้อนวอลลาบีลงไปในน้ำ" คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  sbs.com.au/thai บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่  facebook.com/sbsthai https://www.sbs.com.au/language/thai/th/article/dingo-attacks-are-in-the-spotlight-are-they-common-and-should-we-be-worried/921cf2nah?fbclid=IwAR2gvaIZOzlOYM1gHaDwVm605xRyeUh4vdRwrPDjf7-URs-Oqox40uK5Ovo

SBS

14

0